เทคนิคการตรวจสอบแบตรถยนต์ว่าแบตเสื่อมและเก็บไฟอยู่หรือไม่

แบตรถยนต์

 

ถ้าแบตรถยนต์ไม่เสียเป็นปกติหรืออาจจะเพิ่งเปลี่ยนแบตเตอรี่มา ช่วงเปลี่ยนแบตรถยนต์มาใหม่ๆ สตาร์ทรถติดง่ายมาก สตาร์ทครั้งเดียวเครื่องยนต์ก็ติดแต่ใช้ไปได้สักพักปรากฏว่าเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ยาก หรือขับๆ รถอยู่เครื่องยนต์ก็ดับไปเอง อาการเสียลักษณะนี้วิเคราะห์คร่าวๆ ได้ว่าอาจจะเป็นสาเหตุมาจากไดชาร์จหรือชุดจ่ายไฟในระบบรถยนต์มีปัญหา อาการระบบไดชาร์จเสียสังเกตจากหน้าปัดในรถจะมีรูปแบตเตอรี่โชว์เป็นสีแดง ควรเข้าศูนย์ตรวจเช็กรถยนต์ยี่ห้อนั้นๆ ดีกว่าการดูแลแบตรถยนต์ ให้ถูกวิธีจะช่วยให้เราใช้งานแบตเตอรี่ได้คุ้มค่าที่สุดด้วย วิธีการง่ายๆ คือ

1. ตรวจสอบสภาพของแบตรถยนต์เสมอ อย่าให้มีรอยแตกร้าว เพราะจะทำให้แบตเตอรี่ไม่เก็บประจุไฟฟ้า

2. ดูแลขั้วแบตรถยนต์ให้สะอาดเสมอ ถ้ามีคราบเกลือเกิดขึ้นให้ทำความสะอาด

3. ตรวจสภาพของระดับน้ำกลั่นแบตรถยนต์ทุกๆ 1 สัปดาห์

4. ตรวจเช็กระบบไฟชาร์จของอัลเตอร์เนเตอร์ว่าระบบไฟชาร์จต่ำหรือสูงไป ถ้าต่ำไปจะมีผลทำให้กำลังไฟไม่พอใช้ในขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือถ้าสูงไปจะทำให้น้ำกรดและน้ำกลั่นอยู่ภายในระเหยเร็วหรือเดือดเร็วได้ในช่วงเวลาเดียวกัน

5. ช่วงที่มีอากาศหนาวหรืออุณหภูมิต่ำประสิทธิภาพการแพร่กระจาย ของน้ำกรด และน้ำกลั่นจะด้อยลง เพราะฉะนั้นควรหลีกเลี่ยงการใช้กระแสไฟมากๆ ขณะอากาศเย็น

6. ควรศึกษาถึงการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ให้เหมาะสมกับแบตรถยนต์และไดชาร์จ เพื่อที่จะให้วงจรการไหลของไฟฟ้าเป็นไปด้วยดี

7. ควรเติมน้ำกลั่นให้ได้ตามระดับที่กำหนด ไม่ควรเติมต่ำหรือสูงเกินไป ถ้าเกิดเติมสูงไปจะเป็นสาเหตุหลักทำให้ขี้เกลือขึ้นเร็ว แบตเตอรี่ก็จะสกปรกเร็ว

ถ้าท่านใดสนใจอยากสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแบตรถยนต์ สามารถเข้ามาขอคำแนะนำได้ที่ batterymotormp.com เรามีทีมงานที่มีประสปการณ์ที่ให้ความช่วยเหลือท่าน ไม่ว่าจะอยู่แห่งใดในเขตพื้นที่กรุงเทพและเขตปริมณฑล ทีมงานร้านมิตรภาพแบตเตอรี่จะนำแบตรถยนต์ไปส่งและติดตั้งให้ทุกๆ ที่ท่านอยู่ครับ