ไหมทองคำ จำเลยสำคัญของสงครามการร้อยไหม

ทั้งนี้เพราะการร้อยไหมทองคำแท้ 99.99% ซึ่งได้รับการรับรองจากอย.ของสหรัฐอเมริกา และจากอย.ของเมืองไทย นั้นมีเพียงไม่กี่ท่าน จึงเป็นที่มาของการให้ข่าวสารในทางลบต่างๆ ของการร้อยไหมทองคำจากคู่แข่งในวงการร้อยไหม ซึ่งในความจริงแล้ว การร้อยไหมทุกประเภทนั้น แพทย์ผิวหนังก็ได้ออกมาเตือนว่าไม่ได้มีความปลอดภัย 100%

%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%a2%e0%b9%84%e0%b8%ab%e0%b8%a14

เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แพทย์หญิงวิไล ธนอักษรสาส ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ผิวหนัง โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้ออกมาเตือนว่า การร้อยไหมทองคำเป็นเรื่องอันตรายมาก และผิดกฎหมาย ไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา การร้อยไหมทองคำที่ไม่ใช่ทองคำบริสุทธิ์จริงๆ จะเข้าเครื่อง MRI หรือเครื่องตรวจสแกนร่างกายไม่ได้ แถมคนไข้บางคนไม่รู้และไม่ได้แจ้งให้แพทย์ผิวหนังทราบว่าตัวเองผ่านการร้อยไหมทองคำมา พอทำเลเซอร์แล้วผิวเกิดหน้าเกิดอาการไหม้ และไหมทองคำละลายจนใบหน้าผิดรูป

งานนี้ทำเอาฝั่งคลินิกให้บริการร้อยไหมทองคำแท้ต้องรีบออกมาชี้แจงด่วน โดยอ้างข้อมูลว่าแพทย์ผู้คิดค้นเทคนิคนี้ใช้เวลาทดลองมากว่า 10 ปี ซึ่งทั่วโลกมีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นที่สามารถให้บริการการร้อยไหมทองคำอย่างปลอดภัย แต่หากคนไข้ที่ไม่ศึกษาข้อมูลให้ดี ไปเจอทองที่ไม่บริสุทธิ์ หรือทองปลอม ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น ผิวหนังจะตาย หรือเกิดอาการเป็นพิษอย่างรุนแรงตามอาการแพ้ของสารปนเปื้อนนั้นๆ มีผื่นแพ้ หรือพบพังผืดใต้ชั้นผิว สีผิวดำคล้ำ เนื้อเยื่อติดเชื้อ ผิวเป็นคลื่นตะปุ่มตะป่ำไปจนถึงใบหน้าบูดเบี้ยว และหากสะสมตกค้างอยู่ในร่างกายจะทำให้เซลล์เม็ดเลือดติดเชื้อ จนก่อให้เกิดเป็นโรคมะเร็งได้ในที่สุด

มาอ่านจนถึงบรรทัดนี้แล้ว ขอแนะนำว่าใครที่คิดจะไปร้อยไหมไม่ว่าจะด้วยเทคนิคไหนควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียดก่อนการตัดสินใจ รวมทั้งเลือกคลินิกและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญ อย่าตัดสินใจเลือกราคาถูกหรือเชื่อในคำโฆษณาเด็ดขาด